Customer Reviews

รอยฝันตะวันเดือด ผลงานเรื่องที่ 2 ในซีรีย์ชุด Rising Sun โดย ณารา เขียนได้สนุกมากๆในเรื่องเต็มไปด้วยตัวละครที่มีเสน่ห์มากมาย นำโดย “ริว โอนิซิกะ” ผู้ชายที่ยอมเสียสละความรักได้เพื่อปกป้องคนรักอย่าง”มายูมิ ทากาฮาชิ” หมอมายูมิผู้เปี่ยมด้วยความสดใส น่ารัก แต่ภายในแล้วเข้มแข็ง ทำทุกอย่างเพื่อคนรักของเธอเสมอ ”ยูจิ โคบายาชิ”ผู้กองหนุ่มผู้ร้ายลึกที่มีอดีตอันแสนเศร้าทำได้ทุกอย่างเพื่อคนที่รัก

”ริว โอนิซึกะ”คือพระเอกในใจของทุกคน ริวเป็นคนที่มุ่งมั่น เสียสละ จริงใจ ซื่อสัตย์ต่อความรู้สึกของตัวเองและผู้อื่นเสมอ เมื่อตัดสินใจอะไรแล้วจะลงมือทำเลย ไม่มัวมานั่งลังเลให้เสียเวลา การที่ได้นางเอกใสใสอย่าง ”มายูมิ ทากาฮาชิ”จึงเป็นอะไรที่ดูเหมาะสมกันมาก ทั้งเรื่องนิสัย ความเป็นตัวของตัวเอง สมกับเป็นพระเอก นางเอกจริงๆทำให้เนื้อเรื่องน่าติดตามคอยเป็นกำลังใจให้ทั้งริวและหมอมายูมิได้อย่างไม่มีขวยเขิน เมื่อมีผู้กองตัวร้ายลึกอย่าง”ยูจิ โคบายาชิ”ได้เข้ามาในชีวิต หมอมายูมินางเอกของเราก็วางตัวได้เป็นอย่างดี ไม่น้ำเน่า ไม่ยืดเยื้อ ทำให้ไม่แปลกใจเลยว่าทำไมผู้กองยูจิถึงยอมทำได้ทุกอย่างเพื่อหมอมายูมิ

สำหรับผู้รีวิวแล้วรู้สึกประทับใจบทของตัวผู้กองยูจิอย่างมาก ผู้กองยูจิเป็นคนที่ถูกคาดหวังให้ชนะมาตลอดแต่กลับต้องมาแพ้ริวตลอดทุกๆด้าน ไม่เว้นแม้แต่เรื่องความรัก ปลายทางชีวิตของผู้กองคนไม่ดีคนนี้น่าเศร้าใจอย่างยิ่ง น่าจะเป็นเงาสะท้อนให้เห็นหลายๆคนในสังคมว่า”ถ้าทำเต็มที่แต่แพ้ แล้วยังดันทุรังต่อไป”ผลที่ได้รับคืออะไร เสียดายที่บบาทของยูจิถึงแม้จะเด่นแต่ก็มีให้กล่าวถึงไม่มาก

รอยฝันตะวันเดือด ภาคนี้ตัวร้ายๆเต็มไปหมด แต่ก็มีบทของตัวละครกลับมีไม่มาก ถูกพระเอกละนางเอกแย่งซีนไปเสียหมด ไม่เว้นแม้แต่พระรองอย่างไทชิ สรุปโดยรวมแล้วยังเป็นนิยายที่สนุกมาก อ่านแล้วคนที่ชอบริวและมายูมิไม่ผิดหวังอย่างแน่นอน

รอยฝันตะวันเดือด ผลงานเรื่องที่ 2 ในซีรีย์ชุด Rising Sun โดย ณารา เขียนได้สนุกมากๆในเรื่องเต็มไปด้วยตัวละครที่มีเสน่ห์มากมาย นำโดย “ริว โอนิซิกะ” ผู้ชายที่ยอมเสียสละความรักได้เพื่อปกป้องคนรักอย่าง”มายูมิ ทากาฮาชิ” หมอมายูมิผู้เปี่ยมด้วยความสดใส น่ารัก แต่ภายในแล้วเข้มแข็ง ทำทุกอย่างเพื่อคนรักของเธอเสมอ ”ยูจิ โคบายาชิ”ผู้กองหนุ่มผู้ร้ายลึกที่มีอดีตอันแสนเศร้าทำได้ทุกอย่างเพื่อคนที่รัก

”ริว โอนิซึกะ”คือพระเอกในใจของทุกคน ริวเป็นคนที่มุ่งมั่น เสียสละ จริงใจ ซื่อสัตย์ต่อความรู้สึกของตัวเองและผู้อื่นเสมอ เมื่อตัดสินใจอะไรแล้วจะลงมือทำเลย ไม่มัวมานั่งลังเลให้เสียเวลา การที่ได้นางเอกใสใสอย่าง ”มายูมิ ทากาฮาชิ”จึงเป็นอะไรที่ดูเหมาะสมกันมาก ทั้งเรื่องนิสัย ความเป็นตัวของตัวเอง สมกับเป็นพระเอก นางเอกจริงๆทำให้เนื้อเรื่องน่าติดตามคอยเป็นกำลังใจให้ทั้งริวและหมอมายูมิได้อย่างไม่มีขวยเขิน เมื่อมีผู้กองตัวร้ายลึกอย่าง”ยูจิ โคบายาชิ”ได้เข้ามาในชีวิต หมอมายูมินางเอกของเราก็วางตัวได้เป็นอย่างดี ไม่น้ำเน่า ไม่ยืดเยื้อ ทำให้ไม่แปลกใจเลยว่าทำไมผู้กองยูจิถึงยอมทำได้ทุกอย่างเพื่อหมอมายูมิ

สำหรับผู้รีวิวแล้วรู้สึกประทับใจบทของตัวผู้กองยูจิอย่างมาก ผู้กองยูจิเป็นคนที่ถูกคาดหวังให้ชนะมาตลอดแต่กลับต้องมาแพ้ริวตลอดทุกๆด้าน ไม่เว้นแม้แต่เรื่องความรัก ปลายทางชีวิตของผู้กองคนไม่ดีคนนี้น่าเศร้าใจอย่างยิ่ง น่าจะเป็นเงาสะท้อนให้เห็นหลายๆคนในสังคมว่า”ถ้าทำเต็มที่แต่แพ้ แล้วยังดันทุรังต่อไป”ผลที่ได้รับคืออะไร เสียดายที่บบาทของยูจิถึงแม้จะเด่นแต่ก็มีให้กล่าวถึงไม่มาก

รอยฝันตะวันเดือด ภาคนี้ตัวร้ายๆเต็มไปหมด แต่ก็มีบทของตัวละครกลับมีไม่มาก ถูกพระเอกละนางเอกแย่งซีนไปเสียหมด ไม่เว้นแม้แต่พระรองอย่างไทชิ สรุปโดยรวมแล้วยังเป็นนิยายที่สนุกมาก อ่านแล้วคนที่ชอบริวและมายูมิไม่ผิดหวังอย่างแน่นอน

100 สิ่งของสำคัญ ในสงครามโลกครั้งที่ 2

หากจะพูดถึงสงครามแล้ว หลายคนย่อมรู้จักดี แต่ไม่มีสงครามแห่งมวลมนุษชาติครั้งไหนจะยิ่งใหญ่ และมีผู้สูญเสียชีวิตมากมายเท่าสงครามโลกครั้งที่ 2 อีกแล้ว สงครามโลกครั้งที่ 2 นี้นอกจากจะเป็นจุดเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ของหลายๆประเทศในโลกปัจจุบันแล้ว ยังสร้างวีรบุรุษขึ้นอีกมายมาย จากทั้งฝ่ายพันธมิตรและอักษะที่เข้ารบกันอย่างดุเดือดเป็นเวลาเกือบห้าปี ที่ผ่านมาผู้อ่านอาจจะเคยได้สัมผัสโดยการเล่าผ่านชีวประวัติของนายพลเด่นๆฝ่ายพันธมิตรและฝ่ายอักษะหลายๆคน ไม่ว่าจะเป็นพลเอก ดไวท์ ไอเซนฮาวน์,พลโท จอห์น แพตตัน(ซึ่งเคยถูกนำไปสร้างเป็นภาพยนตร์จนได้รางวัลออสการ์มาแล้ว)จากฝั่งอเมริกา หรือจอมพล เบอร์นาร์ด มอนโกเมอรี่ และบุรุษเหล็กเจ้าของซิการ์แห่งตำนานในเล่มนี้ อย่างเซอร์ วินส์ตัน เชอร์ชิลล์ จากอังกฤษ
รวมถึงฝ่ายอักษะที่แม้จะเป็นฝ่ายแพ้สงคราม แต่ยอดขุนพลไม่ว่าจะเป็นจอมพล แอร์วิน รอมเมลเจ้าของฉายา”จิ้งจอกทะเลทราย”,จอมพล เอริค ฟอน มันสไตน์,พลเอก ไฮนซ์ วิลเฮ็ม กูเดเรียนผู้ก่อตั้งกองพันยานเกราะPanzer ที่ใครๆต่างครั่นคร้ามแห่งเยอรมัน ชื่อเสียงไม่ได้เป็นรองในฝ่ายพันธมิตรแต่อย่างใด หรืออาจจะได้รับยกย่องให้เหนือกว่าเสียด้วยซ้ำด้วยกำลังที่น้อยหลายเท่าตัว ซึ่งประวัตินายพลเด่นๆของสงครามมหาประลัยครั้งนี้ ถูกรวบรวมและนำมาพิมพ์ซ้ำสู่สายตาผู้อ่านอยู่บ่อยครั้ง

หนังสือเล่มนี้ซึ่งเป็นผลงานการเขียนร่วมกันโดย พลตรี จูเลี่ยน ทอมสันอดีตนายทหารสังกัดนาวิกโยธินชาวอังกฤษผู้ผ่านการบังคับบัญชาทุกแนวรบมาแล้วทั้งหมด และดร.เอลแลนด์ อาร์ มิลมิลเลตต์ อดีตนายทหารยศนาวาเอกนาวิกโยธินสหรัฐ เป็นการเรียนรู้ที่น่าติดตามและเพลิดเพลินอย่างยิ่งในอีกมุมมองที่คุณอาจจะไม่เคยสัมผัสมาก่อน แปลโดย นงนุช สิงหเดชะ ซึ่งจะพาพวกเราไปรู้จักกับ “100 สิ่งของสำคัญ ในสงครามโลกครั้งที่ 2” ซึ่งหากขาดไปเสีย ชัยชนะอันยิ่งใหญ่ของฝ่ายพันธมิตรก็คงจะเกิดขึ้นเสียไม่ได้ รวมถึงบางสิ่งถูกเก็บเป็นความลับมาอย่างยาวนาน อาทิเช่น

”เครื่องอินิกม่า”ที่ฝ่ายพันธมิตรสามารถถอดรหัสได้โดยที่ฝั่งนาซี ไม่ล่วงรู้มาก่อนเลย เป็นหนึ่งในกุญแจแห่งชัยชนะอย่างแท้จริง
“กราฟสปี”เรือรบฉบับกระเป๋า นักล่าแห่งแอตแลนติก กับจุดจบที่น่าฉงน
“หลอดยาเพนิซิลิน ซึ่งช่วยชีวิตทหารพันธมิตรได้มากมายจากการติดเชื้อไวรัสอย่างรุนแรงที่ถูกเก็บเป็นความลับ”
“กำแพงแอตแลนติก”กำแพงแห่งความหวังของฮิตเลอร์ ซึ่งเป็นหนึ่งในจุดเริ่มต้นของจุดจบสำหรับนาซีเยอรมัน
“เรืออู”ที่เป็นน่าหวาดกลัวของเรือขนส่งฝั่งพันธมิตร ซึ่งน้อยคนจะรู้ว่าทหารเยอรมันที่ทำหน้าที่ปฎิบัติการในเรืออูนั้นอัตราการรอดชีวิตต่ำมาก จนแทบไม่มีเลย ไม่เว้นแม้แต่ชีวิตลูกชายทั้ง 2คนของพลเรือเอกคาร์ล เดอนิตซ์ผู้สืบทอดอำนาจอาณาจักรไรซ์ที่สาม

และอื่นๆอีกมากมายอัดแน่นอยู่ใน 320 หน้า ของหนังสือเล่มนี้ที่ผู้ติดตามและชื่นชอบประวัติศาตร์จะพลาดไม่ได้โดยเด็ดขาด

100 สิ่งของสำคัญ ในสงครามโลกครั้งที่ 2

หากจะพูดถึงสงครามแล้ว หลายคนย่อมรู้จักดี แต่ไม่มีสงครามแห่งมวลมนุษชาติครั้งไหนจะยิ่งใหญ่ และมีผู้สูญเสียชีวิตมากมายเท่าสงครามโลกครั้งที่ 2 อีกแล้ว สงครามโลกครั้งที่ 2 นี้นอกจากจะเป็นจุดเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ของหลายๆประเทศในโลกปัจจุบันแล้ว ยังสร้างวีรบุรุษขึ้นอีกมายมาย จากทั้งฝ่ายพันธมิตรและอักษะที่เข้ารบกันอย่างดุเดือดเป็นเวลาเกือบห้าปี ที่ผ่านมาผู้อ่านอาจจะเคยได้สัมผัสโดยการเล่าผ่านชีวประวัติของนายพลเด่นๆฝ่ายพันธมิตรและฝ่ายอักษะหลายๆคน ไม่ว่าจะเป็นพลเอก ดไวท์ ไอเซนฮาวน์,พลโท จอห์น แพตตัน(ซึ่งเคยถูกนำไปสร้างเป็นภาพยนตร์จนได้รางวัลออสการ์มาแล้ว)จากฝั่งอเมริกา หรือจอมพล เบอร์นาร์ด มอนโกเมอรี่ และบุรุษเหล็กเจ้าของซิการ์แห่งตำนานในเล่มนี้ อย่างเซอร์ วินส์ตัน เชอร์ชิลล์ จากอังกฤษ
รวมถึงฝ่ายอักษะที่แม้จะเป็นฝ่ายแพ้สงคราม แต่ยอดขุนพลไม่ว่าจะเป็นจอมพล แอร์วิน รอมเมลเจ้าของฉายา”จิ้งจอกทะเลทราย”,จอมพล เอริค ฟอน มันสไตน์,พลเอก ไฮนซ์ วิลเฮ็ม กูเดเรียนผู้ก่อตั้งกองพันยานเกราะPanzer ที่ใครๆต่างครั่นคร้ามแห่งเยอรมัน ชื่อเสียงไม่ได้เป็นรองในฝ่ายพันธมิตรแต่อย่างใด หรืออาจจะได้รับยกย่องให้เหนือกว่าเสียด้วยซ้ำด้วยกำลังที่น้อยหลายเท่าตัว ซึ่งประวัตินายพลเด่นๆของสงครามมหาประลัยครั้งนี้ ถูกรวบรวมและนำมาพิมพ์ซ้ำสู่สายตาผู้อ่านอยู่บ่อยครั้ง

หนังสือเล่มนี้ซึ่งเป็นผลงานการเขียนร่วมกันโดย พลตรี จูเลี่ยน ทอมสันอดีตนายทหารสังกัดนาวิกโยธินชาวอังกฤษผู้ผ่านการบังคับบัญชาทุกแนวรบมาแล้วทั้งหมด และดร.เอลแลนด์ อาร์ มิลมิลเลตต์ อดีตนายทหารยศนาวาเอกนาวิกโยธินสหรัฐ เป็นการเรียนรู้ที่น่าติดตามและเพลิดเพลินอย่างยิ่งในอีกมุมมองที่คุณอาจจะไม่เคยสัมผัสมาก่อน แปลโดย นงนุช สิงหเดชะ ซึ่งจะพาพวกเราไปรู้จักกับ “100 สิ่งของสำคัญ ในสงครามโลกครั้งที่ 2” ซึ่งหากขาดไปเสีย ชัยชนะอันยิ่งใหญ่ของฝ่ายพันธมิตรก็คงจะเกิดขึ้นเสียไม่ได้ รวมถึงบางสิ่งถูกเก็บเป็นความลับมาอย่างยาวนาน อาทิเช่น

”เครื่องอินิกม่า”ที่ฝ่ายพันธมิตรสามารถถอดรหัสได้โดยที่ฝั่งนาซี ไม่ล่วงรู้มาก่อนเลย เป็นหนึ่งในกุญแจแห่งชัยชนะอย่างแท้จริง
“กราฟสปี”เรือรบฉบับกระเป๋า นักล่าแห่งแอตแลนติก กับจุดจบที่น่าฉงน
“หลอดยาเพนิซิลิน ซึ่งช่วยชีวิตทหารพันธมิตรได้มากมายจากการติดเชื้อไวรัสอย่างรุนแรงที่ถูกเก็บเป็นความลับ”
“กำแพงแอตแลนติก”กำแพงแห่งความหวังของฮิตเลอร์ ซึ่งเป็นหนึ่งในจุดเริ่มต้นของจุดจบสำหรับนาซีเยอรมัน
“เรืออู”ที่เป็นน่าหวาดกลัวของเรือขนส่งฝั่งพันธมิตร ซึ่งน้อยคนจะรู้ว่าทหารเยอรมันที่ทำหน้าที่ปฎิบัติการในเรืออูนั้นอัตราการรอดชีวิตต่ำมาก จนแทบไม่มีเลย ไม่เว้นแม้แต่ชีวิตลูกชายทั้ง 2คนของพลเรือเอกคาร์ล เดอนิตซ์ผู้สืบทอดอำนาจอาณาจักรไรซ์ที่สาม

และอื่นๆอีกมากมายอัดแน่นอยู่ใน 320 หน้า ของหนังสือเล่มนี้ที่ผู้ติดตามและชื่นชอบประวัติศาตร์จะพลาดไม่ได้โดยเด็ดขาด